โรงเรียนเอกชนปรับตัวสู้วิกฤตเด็กลด

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2561 ดร.พะโยม  ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ปสกช.) จังหวัดครบทุกจังหวัดแล้ว รวมถึง ปสกช.กรุงเทพฯ เพื่อทำหน้าที่เสนอนโยบาย แผนพัฒนา และโครงการพัฒนาการศึกษาเอกชนต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การประสานงานของภาคเอกชนมีความเข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้ ในการประชุมกรรมการ ปสกช.กรุงเทพฯ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ตนได้หารือเรื่องโอกาสทางการศึกษาคุณภาพการศึกษา และการขับเครื่องคุณธรรม กับผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ซึ่งพบว่า ผู้ปกครองจะนิยมส่งบุตร หลาน เข้าเรียนโรงเรียนเอกชนในระดับประถมศึกษา เพราะเด็กจากโรงเรียนเอกชนจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง รองจากโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย แต่พอเข้าเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา เด็กเก่งๆจะเปลี่ยนไปเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐ ซึ่งหากเป็นโรงเรียนเอกชนยอดนิยมจะไม่มีปัญหาอะไรสามารถอยู่รอดได้ แต่ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนทั่วๆไปอาจจะมีปัญหาจำนวนนักเรียนลดลง ดังนั้น โรงเรียนเอกชนต้องปรับตัว จากที่เน้นการสอนวิชาการเป็นหลัก ก็ต้องมองการสอนในสายวิชาชีพด้วย และต้องพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ส่วนเรื่องการขับเคลื่อนคุณธรรม นั้น จะส่งเสริมสนับสนุนและมีการดำเนินงานกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น

“ การสอนสายสายวิชาชีพ ของโรงเรียนในระบบที่สอนสายสามัญศึกษา นั้น โรงเรียนต้องดูว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะเปลี่ยนผ่านให้เด็กไปสู่สายวิชาชีพอย่างไร ต้องมีวิธีการค้นพบความถนัดของนักเรียน วัดแวว สร้างความสนใจในวิชาชีพ ทั้งนี้ สช.จะประสานโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่สอนหลักสูตรระยะสั้น เช่น ดนตรี การโรงแรม ทำอาหาร ซึ่งล้วนแต่เป็นมมืออาชีพในเรื่องนั้นๆมาร่วมกันจัดการเรียนการสอน หรือ นำหน่วยกิตที่เรียนจากโรงเรียนนอกระบบมาถ่ายโอนหน่วยกิตกันได้ เป็นต้น” ดร.พะโยม กล่าวและว่า นอกจากนี้โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ได้แจ้งตอบรับที่จะเข้าร่วมโครงการเด็กไทยสุขภาพดีกับ สช.เข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะต้องการลดสถิติเด็กในโรงเรียนเอกชนที่มีโภชนาการเกิน มีไขมันในเลือดสูงกว่าค่าปกติ หรือ เด็กอ้วนลง โดยจากข้อมูล พบว่า เด็กประถมฯมีโภชนาการเกินประมาณ 19% และ เด็กมัธยมฯมีโภชนาการเกิน ประมาณ 36 % ซึ่งหากปล่อยไว้มีแนวโน้มว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเยอะมาก

 

เครดิตข่าว : เว็บไซต์เดลินิวส์