วันนี้ (25 ก.ค.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ภายหลังประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า ตนได้รายงานที่ประชุมให้ทราบถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และมาตรการต่างๆที่ สกสค.ร่วมกับธนาคารออมสินได้ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และ การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.)ครั้งที่ 1 ในส่วนของเงินกู้โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. 2-7 และโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ส. ลดดอกเบี้ย 0.5-1% ซึ่งยังเหลือครูที่ยังเป็นหนี้โครงการเงินกู้ ช.พ.ค.อยู่ 483,578 ราย เป็นเงิน 410,923 ล้านบาท
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนครูที่มีหนี้วิกฤตประมาณ 4,000 รายที่เข้าข่ายอาจจะถูกดำเนินการยกเลิกสัญญาและฟ้องคดี ตามที่ธนาคารออมสินมีหนังสือด่วนที่ บด. 4856/2561 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2561 เรื่องขอให้เร่งแก้ไขปัญหาลูกหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้ค้างชำระ และไม่เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ โดยทางธนาคารเร่งรัดให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ ยกเลิกสัญญาและฟ้องคดี ให้จบภายในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมนี้นั้น ขณะนี้ตนได้ประสานขอให้ธนาคารออมสินทำรายละเอียดมาว่าในจำนวน 4,000 รายนั้น เป็นใครบ้าง ใครเป็นผู้ค้ำ และจำนวนเงินเท่าไร จากนั้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้มีการหารือกับธนาคารออมสิน โดยนำข้อมูลที่ได้มาหาทางออกร่วมกัน ซึ่ง เบื้องต้นคิดไว้ว่าอาจจะเจรจาขอให้ธนาคารออมสินอย่าเพิ่งดำเนินการฟ้อง และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกไปก่อน 1 ปี แต่ตรงนี้เป็นแนวคิดเท่านั้นยังไม่ใช่ข้อยุติ ทั้งนี้ เท่าที่ทราบในจำนวน 4,000 รายนี้ ส่วนใหญ่มีหนี้สินเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 1 ล้านบาท แต่ก็มีบางรายที่เป็นหนี้ถึง 3 ล้านบาท
เครดิตข่าว: เดลินิวส์ออนไลน์