ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลพระราชทานในครั้งนี้ พร้อมทั้งชื่นชมผู้ปกครอง ครู อาจารย์ และผู้บริหารสถานศึกษา ที่ได้สร้างให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นคนดีของสังคม พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ และขอให้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบรมนาถบพิตร ในเรื่องการให้ เพราะการให้จะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และยึดหลักการทำความดี สร้างเสริมการมีวินัย แสวงหาหาความรู้ใหม่ๆ พร้อมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิตโดยยึดหลักของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน เราจึงต้องดำเนินชีวิตด้วยความอดทน มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งด้านวัตถุ สังคม และสิ่งแวดล้อมจากโลกภายนอกได้ ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ จะน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที่ 10 ใส่เกล้าฯ และยึดมั่นปฏิบัติเป็นหลักในการพัฒนาการศึกษาของชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยการจัดการศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ
1) มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
2) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม
3) มีงานทำ มีอาชีพสุจริต
4) เป็นพลเมือง
ในช่วงบ่าย (6 พฤศจิกายน 60 ) นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะนำ นักเรียน นักศึกษา และผู้แทนสถานศึกษาที่ได้เข้ารับรางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2559 เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศาลาดุสิดาลัยสวนจิตรดา
เครดิตข่าว : เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ